ฤดูกาลท่องเที่ยว Utrecht & Amsterdam Part 2
เดินจนเมื่อยนักก็หยุดพักหาของกินกันมั่ง ของกินที่นี่ก็มีจำพวกฟาสต์ฟู๊ดรถเข็นตามริมคลอง เบอร์เกอร์ พิซซ่า…..ราคาก็ราวๆ 3-5 ยูโร คงได้มั้ง อาจแพงกว่ามากหรือถูกกว่านี้นิดหน่อย เหอๆ แล้วอรดากับพี่มุ่ยจะกินอะไรกันดีเล่า ทีแรกก็เล็งๆร้านฟาสฟู๊ดพวกนั้นไว้อยู่เหมือนกัน พวกเมนูที่มันไม่เกิน 3 ยูโร แต่พอเดินไปเรื่อยมันก็หาราคาถูกๆเท่านี้ไม่เจอแล้ว จะมีก็แต่พิซซ่าแป้งหนาๆ ดูเลี่ยนๆ อี๋ ไม่เอาดีกว่าน่า ในที่สุดก็เจอซุปเปอร์ ขายของกิน พวกขนมปัง สลัด แซนวิช ขนมอบต่างๆ แล้วก็น้ำดื่ม โว้วๆ นี่แหละของถูก 555 เมื่อตัดสินใจแล้วก็เดินปรี่เข้าไปเล้ย หาป้ายที่มันตัวเลขใหญ่ๆ นั่นคือของลดราคา หรือของราคาถูกล่ะ แซนวิชประเภทมีผักมีเนื้อครบ 5 หมู่มันก็แพง ชั้นเอาไอวาฟเฟิลนี่ล่ะว่ะ อันใหญ่อันละ 1 ยูโร เหอๆ มันถูกนะเนี่ย แต่อย่าคิดเป็นเงินไทยนะ 555 ส่วนน้ำดื่มของที่นี่ อย่าไปคิดว่าจะกินน้ำเปล่าเพื่อประทังชีวิต เพราะราคามันถุกแบบในบ้านเราที่จะหา โพลาริสขวดขุ่นๆราคา 5 บาท หรือขวดใสที่ขายในเซเว่นราคาไม่ถึง 10 บาทได้ ที่นี่น้ำเปล่าหายากและราคาแพงกว่าน้ำอื่นๆแน่นอน น้ำเปล่าก็จะเป็นน้ำแร่ไรแบบนั้น ขวดเล็กก็ราคา 1.60 ยูโร เหอๆๆบอกแล้วว่าอย่าคิดเป็นเงินไทย น้ำอัดลมยังราคาถูกกว่า แต่สุดท้ายเพื่อสุขภาพ(จริงๆราคามันถูกด้วย)ก็เลยตัดสินใจเลือกน้ำสตรอเบอร์รี่ กล้วยหอมมา…ไม่รู้ว่ามันมีอะไรในนั้นอีกมั่ง แต่กินๆแล้วมันเหมือนมีพวกข้าวโอ๊ตไรแบบนั้นอยู่ด้วยอะ ราคา 1.25 ยูโร……นี่แหละ ถูกแล้ว
กินเข้าไปๆ….ให้หมด เปลืองเงิน อิอิ แล้วก็ปวดฉี่อะ ทำไงดี ห้องน้ำที่นี่ ไม่มีการเข้าฟรีนะคะ อย่างแค่เวลาไปเข้าที่มาบุญครองมันเก็บเงินทีละบาทสองบาทยังไม่อยากจะจ่ายให้มันเล้ย แต่ที่นี่เท่าไหร่ล่ะ 50 เซ็นต์ โอ้ว…..อย่าคิดเป็นเงินไทย คร่าวๆก็ยี่สิบห้าบาทถ้วนต่อการเข้าห้องน้ำหนึ่งครั้ง ฮ่าๆบอกแล้วอย่าคิดเป็นเงินไทย แต่ยังไงก็ต้องเข้าล่ะ จะได้รู้ด้วยว่ามันเป็นยังไง เค้าหยอดเหรียญเอาเองนะ เออ รูปหน้าห้องน้ำให้ดูไปตั้งแต่บล๊อกที่แล้วนี่ ไม่ลงใหม่ละ อิอิ เอารูปในห้องน้ำไปแทน 50 เซ็นต์ต้องเอาให้คุ้ม
เรียบร้อยทุกอย่างทั้งกินทั้งถ่าย….ก็ออกเดินทางต่อ แล้วเก๊กท่าไปเรื่อย
กลับมาดูวิวทิวทัศน์กันต่อนะ อิอิ
เดินไปอีกพักนึงก็แวะพักเหนื่อย ถ่ายรูปซักหน่อย ตอนนี้เริ่มหายหนาวละ
พักเสร็จก็เดินกลับละล่ะ ริมทางเดินบนถนนสายนี้ ก็ได้พบกับความแปลกใหม่ของชีวิต หนุ่มแซวโว้ย มันขับรถผ่าน บีบแตรปิ๊น!!! แล้วก็เปิดกระจกโบกมือทักทาย 555 หรือว่ามันจะด่าว่าอีนี่เดินดีๆหน่อยดิวะ แบบนี้ป่าวอะ เหอๆ แต่ก็แค่นั้นล่ะ แล้วมันก็ขับรถผ่านไป
และแล้วเมื่ออากาศดี เราเลยไม่เจียมสังขารของขาตัวเอง เดินย้อนกลับมาที่ Rondom อีกรอบ เพื่อถ่ายรูปเล็กๆน้อยๆตอนอากาศดี
ได้เวลากลับซะทีเถ๊อะ 555 ก็นั่งรถไปกลับมาที่ Vleuten บ้านของโฮสต์พี่มุ่ย เหนื่อยล้ากันพอสมควร แต่ไม่ได้ถ่ายรูปเล้ยยยย มาแวะถ่ายก็รูปดอกไม้ตอนเดินจากสถานีรถไฟกลับบ้านโฮสต์นี่ล่ะ รูปสุดท้ายของบล๊อกนี้ละกัน
ชอบดอกทิวลิปมาก ขากลับแอบเอากลับมาฝากด้วยนะ นะ
เที่ยวหนำใจยังแก
เมื่อยขาอะดิ ฮี่ๆ
หนุ่มแซวโว้ย มันขับรถผ่าน บีบแตรปิ๊น!!! แล้วก็เปิดกระจกโบกมือทักทาย 555 หรือว่ามันจะด่าว่าอีนี่เดินดีๆหน่อยดิวะ
I dont think so..
I think they done it…cuz u wear Red belt…hehehe
แอบเข้ามาอ่าน
เห็นจาก บล็อกมุ่ยอ่ะน่ะ
อ่านแล้วชอบอ่ะน่าติดตามดี ตลกดีด้วยย
ว่างๆๆจะเข้ามาอ่านบ่อยๆน่ะ
แต้งกิ้ว สำหรับข้อมูลดีๆ จ้า
กูว่าที่เขาบีบแตร … พวกแม่งคงชอบล่าสัตว์ป่า