Archive for June 28th, 2009|Daily archive page

ZOMER….เข้าหน้าร้อนแล้ว

ตามตารางวันที่ที่เคยอ่านมา หน้าร้อนของเนเธอร์แลนด์จะเริ่มจากวันที่ 21 มิถุนายน จนถึงเมื่อไหร่ไม่รู้แหละประมาณ 3-4 เดือนจากนั้นไป แต่อากาศตอนนี้ก็ยังลุ่มๆดอนๆ ฝนตกมั่ง หมอกจัดมั่ง เมฆเยอะอีก บางทีครึ้มๆนะ แต่ร้อน ถ้าไปเดินกลางแจ้งล่ะเหอะ…ดำไม่รู้ตัวนะคะ(ชั้นก็ดำไปเรียบร้อยแล้ว หึหึ)

 

ร้านค้าต่างๆก็พากันลดราคาส่งท้ายฤดูใบไม้ผลิ ต้อนรับเข้าสู้หน้าร้อนซักที เสื้อผ้า รองเท้าจากทุกยี่ห้อ ทุกร้าน ต่างก็พาแข่งกันลดราคา –” ลดซะกระหน่ำขนาดนั้น คนก็ช๊อปปิ้งกันมันสะใจ เดินร้านนู้นออกร้านนี้ หิ้วถุงกันพะรุงพะรัง ตามแคชเชียร์ก็ต่อแถวกันยาวเพื่อจ่ายเงิน พนักงานก็เหนื่อยกันไปแต่ก็ยังคงทักทายทุกครั้งกับลูกค้าทุกคนที่เอาสินค้าที่จะซื้อมาวางคิดเงินด้วยหน้าตายิ้มแย้ม 🙂 แม้กระทั่งมีหญิงสาวคนนึงที่ชั้นยืนต่อท้ายเค้า จากที่แถวยาวเป็นหางอึ่ง(หางว่าวมันยาวไป อิอิ) เธอคนนั้นไม่ได้เอาของมาคิดเงิน แต่เอาของที่ซื้อไปแล้วเมื่อวันไหนไม่รู้แหละมาคืน เตรียมพร้อมมีใบเสร็จรับเงินที่รับได้จากตอนที่ซื้อมายื่น อาจทำให้พนักงานยุ่งยากกันเล็กน้อยสำหรับการเช็คของและคืนเงิน แต่ก็ยังคงทำด้วยความเต็มใจและยิ้มแย้มพร้อมขอบคุณลูกค้า(แม้จะเอาของมาคืนก็เหอะ) เราเห็นแบบนี้แล้วก็ชื่นใจเนอะ บางทีเรื่องเล็กๆน้อยๆ และรอยยิ้มบางๆก็ทำให้คนๆนึงประทับใจได้โดยไม่จำเป็นต้องพูดจา :)))

 

เมื่อวันพฤหัสที่ผ่านมาโฮสต์แด๊ดก็ไปสเปน จะไม่อยู่จนถึงวันอาทิตย์ แล้วเราจะกินอะไรกันล่ะเนี่ย เหอๆ เพราะปกติโฮสต์แด๊ดจะเป็นคนทำอาหารเย็น ชั้นเลยถามโฮสต์มัมตอนเย็นว่าอยากกินปอเปี๊ยะทอดมั้ย ถ้าอยากจะได้ไปซื้อของมาทำให้กิน วันนี้ร้านค้ามันปิดช้า เค้าบอกเอาสิ อยากกินแน่นอนล่ะ(เค้าชอบกินมาก!) ว่าแล้วกว่าจะแงะเด็กๆออกได้ก็ปาเข้าไปหนึ่งทุ่ม ปั่นๆๆจักรยานไปขึ้นรถเมล์ แต่แล้วก็ลืมไปว่าหลังจากหกโมงเย็นรถจะมาทุกๆหนึ่งชั่วโมง(ปกติครึ่งชั่วโมงมาคันนึง) แล้วก็กะเวลาผิด ต้องไปนั่งรออีกเป็นครึ่งชั่วโมงได้ล่ะมั้ง T^T ไปถึงทุ่มครึ่งกว่า ก็ยังคงเดินเตร็ดเตร่ ไม่รีบไปซื้อของที่ต้องการ ด้วยความชะล่าใจว่าร้านมันปิดตอน 2 ทุ่มครึ่งหรือ 3 ทุ่มนี่แหละ(คุยกับตัวเองอยู่ในใจตลอดเวลา) ที่ไหนได้ล่ะ พอสองทุ่มก็เริ่มเอะใจ เอ๋ๆๆทำไมบางร้านมันปิดแล้วล่ะ ว่าแล้วเลยรีบเดินไปร้านเอเชียเลย จ้ำอ้าวๆ…..ป๊าด!!!!!!!!!!!! ร้านปิด

 

ยังๆ เรายังมีความหวัง ไม่แน่อีกร้านที่เป็นร้านใหญ่โตกว่าร้านนี้อาจจะยังไม่ปิด แต่ระยะทางที่ต้องเดินไปมันไกลมาก!!! ไกลจริงๆ เดินแกมวิ่งไป คิดว่ามันอาจจะปิด 2 ทุ่มครึ่ง เดินไปคนเดียวเจอวัยรุ่นเด็กๆเลยนี่แหละนั่งซ้อนมอเตอร์ไซค์มา ขี่ผ่านตูยังจะดั้นด้นแซวไม่ดูหน้าตาอีกว่า “Hello meisjes” แปลเป็นไทยก็ประมาณว่า “ว่าไงจ๊ะ น้องสาว” 555 หนูเอ้ย…กลับบ้านไปชงนมนอนไป๊ 

 

แล้วก็ยังไม่พอ เดินไปอีกซักหน่อยผ่านอนุสรณ์ Airborne Plein เจอตาลุง สองสามคนกับคุณป้าคนสองคนปั่นจักรยานผ่านไป ตาลุงเห็นหน้าทัก “Ni hao!” เฮ้อ…คุณลุงคะ ถ้าหนูตอบภาษาจีนกลับไป คุณลุงจะพูดกับหนูรู้เรื่องมั้ยคะเนี่ย -_-” คนที่นี่เค้าโคตรจะเฟรนด์ลี่จริงๆนะ น่าประทับใจ เหอๆ….เล่าไปๆระหว่างนี้ก้ยังคงตั้งหน้าตั้งตาเดินไป เหนื่อยมาก อากาศก็ร้อนใช่เล่น ป๊าด!!!!!!!!!!นั่นไง ร้านปิดแล้ว T^T เดินกลับทันทีด้วยความเก้อ และผิดหวัง พร้อมคิดว่าจะบอกโฮสต์ว่ายังไงดีหว่า เค้าอาจจะตั้งตารอกินปอเปี๊ยะทอดของเราก็เป็นได้ ฮ่าๆๆ ครั้งนี้ก็ลองเดินกลับด้วยเส้นทางใหม่ๆดูบ้าง ทั้งๆที่เหนื่อยหอบอยู่ใช่ย่อย ยังมีอารมณ์เดินชมธรรมชาติอยู่ได้

หลังอาคารนี้(หรือหน้าก็ไม่รู้)ตกแต่งภาพเป็นท้องฟ้า...เหมือนจริงมากอยู่แหละ
หลังอาคารนี้(หรือหน้าก็ไม่รู้)ตกแต่งภาพเป็นท้องฟ้า…เหมือนจริงมากอยู่แหละ
หนุ่มดัตช์คนนี้เร่งฝีเท้าเพื่อปั่นจักรยานให้พ้นจากมุมกล้อง แต่ที่ไหนได้ล่ะยิ่งหนี ยิ่งอยากถ่าย...อิอิ
หนุ่มดัตช์คนนี้เร่งฝีเท้าเพื่อปั่นจักรยานให้พ้นจากมุมกล้อง แต่ที่ไหนได้ล่ะยิ่งหนี ยิ่งอยากถ่าย…อิอิ
ด้านตรงข้ามตึกก็เป็นสวนสาธารณะ มีทุกรุ่นทุกวัยที่ยังคงนั่งเล่นกันอยู่ที่นี่ในเวลาสองทุ่มกว่าแล้ว
ด้านตรงข้ามตึกก็เป็นสวนสาธารณะ มีทุกรุ่นทุกวัยที่ยังคงนั่งเล่นกันอยู่ที่นี่ในเวลาสองทุ่มกว่าแล้ว

กลับถึงบ้านประมาณสามทุ่มกว่าๆ เจอหน้าโฮสต์มัมก็บอก ชั้นไปช้าเกินไป ร้านมันปิดกันหมดแล้ว โฮสต์ทำหน้าตกใจมากแล้วบอก โอ้ว…เสียใจด้วย ชั้นต้องบอกว่าไม่เป็นไรหรอก ไว้วันหลังค่อยไปซื้อก็ได้ เค้าบอกว่าเธอปั่นจักรยานไปฟรีเลยนะเนี่ย เหอๆ ชั้นรีบบอก เปล่าๆ ชั้นนั่งรถเมล์ไป เค้าเลยถอนหายใจเฮือกบอก โอ้ว เธอไปรถเมล์ ค่อยยังชั่วหน่อย คิดว่าปั่นจักรยานไปซะอีก เหอๆ

ท้องฟ้าหลังจากฝนกระหน่ำตกราวๆสามทุ่ม(ใส่ชื่อรูปผิดด้วย แหะๆ)
ท้องฟ้าหลังจากฝนกระหน่ำตกราวๆสามทุ่ม(ใส่ชื่อรูปผิดด้วย แหะๆ)

จนกระทั่งถึงวันเสาร์ อาทิตย์ วันหยุดสุดสัปดาห์ของชั้นอีกแล้ว 🙂 ฮ่าๆ หัวเราะสะใจ รุ่งเช้าของวันเสาร์ ก็ได้ๆ จริงๆมันก็ไม่เช้าหรอก ปาเข้าไปเก้าโมงครึ่งแล้ว พี่มลก็โทรศัพท์มาบ่นให้ฟังเรื่องงาน แล้วก็ถามว่าจะไปตลาดมั้ยวันนี้ ชั้นก็พะงึมพะงำทำเนียนเสียงสดใจบอกว่าไปสิ ไปอยู่แล้วแหละ พี่แกบอกอืมเนี่ยพี่กำลังจะไป ไว้เจอกันละกัน สองชั่วโมงผ่านไป ชั้นก็ไปถึง แม่พี่แกก็ไปด้วย นั่งรอกันจนเหนื่อยละ แหะๆ อรดาตกรถเมล์ไปแค่ครึ่งนาที แบบว่าเดินไปนี่เห็นรถเมล์วิ่งผ่านหน้าแว๊บเลย T^T เลยต้องกลับบ้านไปนั่งเล่นกับเอมี่รอเวลาซักหน่อยเลยได้ออกมารอรถอีกรอบ(ครั้งแรกจะขึ้นที่ป้ายหน้าบ้าน พอพลาดคันนั้นเลยเซ็ง ชั้นปั่นจักรยานไปรอที่ป้ายสถานีรถไฟดีกว่า เหอๆ) เดินผ่านร้านค้าก็ลดราคากันโครมครามอย่างที่เล่านั่นแหละ ได้ไปซื้อของมาทำปอเปี๊ยะทอดแล้ว เย้วๆ….เอ่อ แต่มันหนักชะมัดเลยว่ะ 😦 แยกกับพี่มลที่ในเมืองพร้อมรับปากว่าจะไปกินขนมจีนตีนไก่ที่บ้านเค้าเย็นนี้ แล้วก็ออกเดินชมสินค้าต่อไป ^^ อดใจไม่ได้ทั้งๆที่ก็ไม่ได้ตั้งใจไปซื้อเลย ของมันถูกราคา ถูกใจเกินไป 555 กระเป๋าเบาไปอีกหน่อยละ

 

กลับมาบ้านด้วยความทุลักทุเล เพราะถุงที่หิ้วมามันขาด จักรยานก็ไม่มีกระเป๋าใส่ของอย่างของคนอื่นเค้า ทำยังไงล่ะเฮ้ย! ผูกปากถุงแล้วก็มัดไว้กับเบาะนั่ง(วางของไว้บนที่นั่งซ้อนด้านหลัง) ท่าจะไปได้ดีก่อนถึงซุปเปอร์มาเก็ตแถวบ้าน ต้องแวะอีกเพราะของยังขาดอยู่ รถตกหล่มนิดนึง แล้วถุงก็หล่นลงมาจากเบาะแล้วขูดกับล้อรถ แครกๆๆๆ ถึงที่หมายพอดี จอดรถเอี๊ยด!!! ถุงขาดไปเรียบร้อย ดีว่ายังไม่ใหญ่เท่าขนาดของมันเลยไม่หล่น เลยไว้ใจคนวางของไว้ที่รถแบบนั้นแหละ จะหิ้วเข้าไปก็ลำบากเหลือเกิน ใครมันจะกล้ามาขโมยก็จะขอดูหน้ามัน เหอๆ ในซุปเปอร์ไปเจอคุณลุงยืนสาธิตการทำอาหารจากเครื่องปรุงยี่ห้อหนึ่งเป็นกระปุกๆแบบสมมติทำข้าวผัดก็ง่ายมาก มีผัก มีข้าว มีเนื้อสัตว์แล้วก็ไอกระปุกนี้ผัดๆๆ ออกมาอร่อย(เค้าว่าอย่างงั้นนะ) บนโต๊ะนั้นมีมาชเมลโล่หยุ่นๆเอาไว้ต้อนรับเด็กๆ สตรอเบอร์รี่และสับปะรดเสียบไม้จิ้มฟันไว้สำหรับเด็กอีกเช่นกัน ตอนนั้นเห็นครอบครัวนึงเค้ายืนกันอยู่ หยิบขนมให้เด็กกิน คุยกันจุกจิก ตาลุงพ่อครัวก็มองมาทางอรดา(ที่แน่นอนว่าต้องหันไปมองเค้าอยู่)แล้วชักชวนให้ชิมเป็นภาษาดัตช์ เอ่อนะ…เค้าอุตส่าห์ยื่นหน้ามาชวน จะไม่กินก็น่าเกลียดรึเปล่า เลยบอก Ja! พร้อมกันนั้นครอบครัวนั้นก็เดินจากไป แล้วตาลุงเค้าก็ใส่ภาษาดัตช์มาเป็นชุด $^%R^% ……..เอ่อ ลุงคะ ชั้นฟังดัตช์ไม่รู้เรื่องหรอกค่ะ เค้าก็โอเค งั้นชิมอะไรดีล่ะ เอาซุปมะเขือเทศมั้ย T^T ในบรรดาผักชั้นไม่ชอบมะเขือเทศที่สุด!!!! ทันใดนั้นก็ยิ้มตอบว่า “ก็ได้ค่ะ” ใจจริงชั้นอยากจะกินมาชเมลโล่สีขาว สีชมพูตรงนั้นต่างหาก หรืออาจจะเป็นสตรอเบอร์รี่ซักครึ่งลูกก็ยังดี หึหึ กลับกลายมาเป็นซุปมะเขือเทศซะงั้น แต่จะว่าไปมันก็ไม่เลวร้ายนะ อร่อยใช้ได้อยู่ ตาลุงก็ถามว่ามาจากไหน มาเลเหรอ….โนวๆค่ะ มาจากไทยเลนด์ เค้าบอกโอ้ว…nice country and beautiful woman เฮ้ย!มันเป็นไรกันมากป่าววะ หญิงไทยอะไรจะโด่งดังอะไรปานนั้น(รู้ใช่มั้ยว่าดังในด้านไหน เหอๆ) เฮ้อ! เลยถามเค้าว่าเคยไปเหรอ เค้าว่าไปเมื่อนานหลายปีมาแล้ว ที่นั่นที่นี่ แล้วก็วกกลับมาพูดเรื่องอาหารว่าเนี่ยทำง่ายนะ อาจจะเสนอของขายตามหน้าที่(แต่ไม่มากเลย ไม่มีการยัดเยียดประมาณว่าลองซื้อไปมั้ยอะไรแบบนั้น) รีบๆซดซุปให้หมด มีเด็กวัยรุ่นชายสองคนเดินท่าอายๆมาเซย์ไฮที่โต๊ะนี้ คุณลุงต้อนรับยิ้มแย้มอย่างดี เชิญชวนให้เด็กหยิบขนมกิน(ทีชั้นล่ะเสนอซุปให้กิน คิดว่ากลัวอ้วนกระมัง เหอๆ)อรดาเลยได้เวลาขอตัวออกมา พร้อมบอกว่าอร่อยมากค่ะ ขอบคุณนะคะ ตาลุงรีบถามว่าจะชิมข้าวอีกมั้ย เดี๋ยวตักให้(ในมือถือถ้วยรอแล้ว) อรดาเกรงใจพร้อมคิดถึงของที่วางไว้ที่รถจักรยานด้านนอกด้วยก็บอกไปว่า ไม่ล่ะค่ะ ขอบคุณนะคะ…เค้าบอก อิ่มแล้ว กินไม่ไหวแล้วใช่มะ 555 กินซุปเท่านั้นล่ะนะ โอเคๆ “Ja” ตอบไปตามมารยาท ซื้อกะหล่ำปลีหนึ่งหัว ฉีกถุงพลาสติกมาสองใบซ้อนกัน ยัดของที่ท้ายจักยานลงไป ต้าย!!!หูหิ้วจะขาด เราไม่สามารถแวนไว้ที่แฮนด์รถจักรยานได้เลย เพราะฉะนั้นต้องจำยอมปั่นจักรยานมือเดียว อีกมือก็อุ้มถุงไว้แนบตัว -_-“

 

กลับมาก็ลงมือทำไส้ปอเปี๊ยะโลด…เด็กๆนี่ก็ชวนเล่นกันจั๊ง แม่มันอยู่ชั้นก็ไม่กล้าพูดดัตช์มั่วๆมากนัก ก็บอกเด็กไปว่า เดี๋ยวก่อนๆ ไปแล้วก็เงียบโลด ทำอาหารดีกว่า ลั๊ลลา ^^

ไส้ปอเปี๊ยะที่แค่ปรุงรสชาติตามความรู้สึก...และมันก็อร่อย
ไส้ปอเปี๊ยะที่แค่ปรุงรสชาติตามความรู้สึก…และมันก็อร่อย

ไม่มีรูปตอนห่อล่ะ เหนื่อยเกินไป

ลงมือทอดแล้ว
ลงมือทอดแล้ว
ปอเปี๊ยะทอดของชั้น ถูกวางลงจานพร้อมเสิร์ฟ
ปอเปี๊ยะทอดของชั้น ถูกวางลงจานพร้อมเสิร์ฟ

มื้อเย็นนั้นกินปอเปี๊ยะทอด ไส้กรอกทอด มันฝรั่ง ถั่วต้ม….อาหารที่คุ้นเคย ชั้นก็กินไส้กรอกไปอันนึง(ใหญ่ใช่เล่น) มันฝรั่ง ถั่วต้มพอประมาณ ปอเปี๊ยะทอดสี่อัน T^T ฮ่าๆ มันจะไม่อ้วนยังไงไหว จำได้ว่าทอดสิบกว่าอัน ไม่แน่ใจว่ากว่าเท่าไหร่แต่น่าจะประมาณ 15 อันมั้ง ถามโฮสต์มัมขณะที่เธอกัดกินแล้วอุทาน อึ้มๆ ไปว่า Do you like it? เค้าหันมายิ้มทำหน้าจริงจัง I love it! ฮ่าๆ แฮปปี้มาก ความสุขของคนทำอาหารก็อยู่ตรงนี้แหละเนอะ การที่ได้เห็นคนกินมีความสุขกับอาหารของเรา ^^ เด็กๆงอแงกันไม่ค่อยกินอาหาร หมายถึงเอมี่ไม่กินปอเปี๊ยะเลย(ไม่เคยกิน) ส่วนคาร์โลกัดปลายๆไปซักสองสามคำ(เคยกินตอนยังเด็กมากๆ)แล้วก็เลิกกิน ไม่กินอะไรอย่างอื่นด้วย คิดดูซะว่าโฮสต์มัมกินที่เหลือทั้งหมดนั่นเกลี้ยงคนเดียว……..จริงๆก็เหลือไว้สามอัน ซึ่งคิดว่าภายในคืนนั้นเธอก็กินเกลี้ยงไปตามระเบียบ ^o^

 

เย็นวันนั้นชั้นก็เลยไม่ได้ไปบ้านพี่มลเพราะฝนตก พี่แกก็โทรมาตามแต่โทรศัพท์ไม่ได้อยู่กับตัวเลยไม่ได้รับ แล้วก็ไม่ได้โทรกลับอีก จริงๆต้องขอโทษพี่เค้ามากๆเลย เพราะเสียมารยาทมาก บอกว่าจะไปแต่ไม่ไป แถมไม่โทรไปบอกด้วย ปล่อยให้เค้านั่งคิดว่าเอ๊ะ มันเป็นอะไรวะไม่รับโทรศัพท์ ไม่โทรกลับด้วย…รู้สึกผิดเลย เนี่ย วันนี้วันอาทิตย์ก็ว่างอีกเลยโทรไปหา พี่แกบอกไม่ต้องมาพูดเลย เมื่อวานทำไมไม่มา…ฝนตก แล้วทำไมไม่รับโทรศัพท์…โทรศัพท์มันไม่ได้อยู่กับตัว ไม่ได้ยิน ทำไร…ตอนนั้นทำปอเปี๊ยะอยู่ ว่าแล้วว่าต้องทำปอเปี๊ยะอยู่ แล้วทำไมไม่โทรมา…นั่นดิ เหอๆเลยบอกว่าวันนี้อยู่บ้านมั้ย เดี๋ยวไปหาละกัน พี่แกบอกก็เออ มาดิ เลยออกไปทันใด เพื่อเสาะแสวงหาลูกเชอร์รี่ ไปถึงแม่พี่มลก็ถามไถ่ ทำไมเมื่อวานไม่มา งั้นงี้ 555 ขอโทษก๊า! อดกินขนมจีนตีนไก่เลย พี่แกบอกกินหมดแล้ว ไม่รอ เลยบอกเค้าว่าที่มานี่ไม่ได้ตั้งใจมากินอย่างเดียวหรอกนะ ก็มาคุยเล่น นั่งเล่นนี่แหละ แหม่นะ จะมาหวังกินบ้านเค้ามันก็น่าเกลียดเกินไป เพราะก่อนไปนั่นก็ซัดขนมปังไป 3 แผ่นเล้ว เอิ้กๆ

 

นั่งคุยกัน แม่ลูกเถียงกันเอง แย่งกันพูด โอ้ย…แยกหูไม่ถูก เป็นคนกลางไว้ก่อนล่ะเรา พี่แกมีอะไรก็หยิบยื่นมาให้กินตลอด ^^ คุยกันเพลินไป เดินไปเก็บเชอร์รี่ที่ต้น เสียดายไม่ได้หิ้วกล้องไปถ่ายที่ต้น แดงเต็มต้นเลย ว้าวๆๆๆ เชอร์รี่สดๆนี่เก็บเองจากต้นเลย

ไม่ได้ถ่ายที่ต้นก็มาถ่ายจากในถุงที่หิ้วไปเก็บมาก็ได้
ไม่ได้ถ่ายที่ต้นก็มาถ่ายจากในถุงที่หิ้วไปเก็บมาก็ได้

หวังว่ามันยังไม่ร่วงหมดต้นภายในอาทิตย์นี้หรอกนะ จะได้ไปถ่ายรูปมาให้ดูกัน คนอื่นเค้าไม่เก็บกินกันหรอกเพราะว่ามันเปรี้ยวปรี๊ด พูดแล้วน้ำลายไหล แต่เราคนไทยชินชา แถมชอบซะอีกล่ะรสชาติแบบนี้ พี่มลก็ไปทำน้ำจิ้มมาจิ้ม ประมาณว่ากะปิหวานแต่ไม่มีกะปิ โอ้ยยยยยยเขียนไปน้ำลายไหลไป 555 กินสะใจจริงๆ

เข้าหน้าร้อนแล้ว ก็เริ่มใส่กางเกงขาสั้นได้แล้ว อิอิ...เสื้อยังแขนยาวเพราะไม่อยากดำไปกว่านี้แล้ว
เข้าหน้าร้อนแล้ว ก็เริ่มใส่กางเกงขาสั้นได้แล้ว อิอิ…เสื้อยังแขนยาวเพราะไม่อยากดำไปกว่านี้แล้ว

 นั่งเล่นอยู่นานตั้งแต่บ่ายโมง กลับบ้านสามทุ่มกว่านู่น 555 จบดีกว่า พรุ่งนี้ทำงานแต่เช้า ^^